สาระน่ารู้ : การยื่นกู้เงิน เพื่อการซ่อมแซม ปรับปรุง ที่อยู่พักอาศัย บ้าน ตึก อาคาร

เรื่อง : การยื่นกู้เงิน เพื่อการซ่อมแซม ปรับปรุง ที่อยู่พักอาศัย บ้าน ตึก อาคาร

เมื่อเรามีความจำเป็นที่จะต้องทำการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ ความเสียหายจากธรรมชาติ หรือจากการใช้งานทั่วไป แต่ยังไม่มีความพร้อมเรื่องการเงิน ที่จะใช้จ่าย เพื่อซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย สินเชื่อซ่อมแซมบ้านจัดเป็นสินเชื่อบ้านประเภทหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะและขั้นตอนในการขอสินเชื่อคล้ายกับการขอสินเชื่อซื้อ/สร้างบ้าน แต่ด้วยจุดประสงค์ที่ต่างออกไป และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต้องใช้ไม่ได้มากเท่าการซื้อ/สร้างบ้าน จึงเป็นทางเลือกที่สำคัญและจำเป็นของคนที่มีความจำเป็น ในการขอสินเชื่อ เพื่อการซ่อมแซม บ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัยดังกล่าว

ไม่ว่าใครก็อยากให้บ้านที่รักยังคงน่าอยู่เสมอ หากบ้านชำรุดทรุดโทรมลงก็อยากหาทางซ่อมแซมบ้านและแก้ไข ดูแลให้บ้านมีสภาพดีขึ้น ดังนั้นสถาบันทางการเงินต่างๆ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ที่สามารถช่วยเราแก้ปัญหาทางการเงินที่เรายังไม่มีความพร้อมในการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัยได้เป็นอย่างดีเยี่ยม เพื่อช่วยให้เรามีเงินมาซ่อมแซมบ้าน

 

สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการยื่นขอสินเชื่อซ่อมแซมบ้าน ตึก  อาคารที่พักอาศัย

เมื่อมีความจำเป็น หรือต้องการกู้เงินเพื่อซ่อมแซมบ้าน หลายคนอาจเข้าใจว่าต้องขอสินเชื่ออเนกประสงค์เท่านั้น เพราะอาจไม่รู้ว่ามีสินเชื่อที่ออกแบบมาเพื่อการซ่อมแซมปรับปรุงบ้าน หรืออาจไม่เข้าใจว่าแท้ที่จริงแล้วสินเชื่อซ่อมแซมบ้านเป็นอย่างไร หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้างที่ต้องรู้

สินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารพักอาศัย ต่างกับสินเชื่อซื้อ/สร้างบ้าน อย่างไร

สินเชื่อบ้านเป็นสินเชื่อที่ไม่ได้ครอบคลุมเพียงการซื้อหรือสร้างบ้านเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการซ่อมแซม ต่อเติม หรืออาจรวมถึงการซื้อของตกแต่งบ้านด้วย และ สินเชื่อซ่อมแซมบ้านก็แตกต่างจากสินเชื่อซื้อหรือสร้างบ้าน เพราะด้วยวัตถุประสงค์การใช้เงินที่ต่างกัน ธนาคารจึงมีเกณฑ์ในการประเมินวงเงินและกระบวนการดำเนินงานอื่นๆ ที่ต่างจากสินเชื่อบ้านทั่วไป ทั้งนี้ กระบวนการในส่วนของผู้ยื่นกู้ก็ไม่ได้ต่างจากการขอสินเชื่อบ้านทั่วไปมากนัก

ผู้ยื่นกู้เงิน เพื่อการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บ้าน

ผู้ที่จะยื่นกู้ซ่อมแซมบ้านได้จะต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เท่านั้น เพราะไม่ใช่แค่เป็นเงื่อนไขของธนาคาร แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ในการซ่อมแซมบ้านในกรณีที่ต้องซ่อมแซมขนานใหญ่หรือระดับโครงสร้างจำเป็นต้องขออนุญาตก่อสร้างเหมือนตอนสร้างบ้านด้วย ทั้งนี้ ยังสามารถมีผู้กู้ร่วมช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินได้ เพียงจำเป็นต้องมีชื่อเจ้าของบ้านเป็นหนึ่งในผู้กู้อย่างน้อยหนึ่งรายชื่อเท่านั้น

บ้านที่ยังมีภาระผ่อนสามารถนำมาเป็นหลักประกันได้

ข้อนี้น่าจะเป็นหนึ่งในข้อสงสัยมากที่สุด เพราะหลายคนอาจเข้าใจว่าสินทรัพย์ที่จะเอามาค้ำประกันต้องเป็นสินทรัพย์ของผู้ยื่นกู้ 100% เท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้วบ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้กู้ตั้งแต่วันโอนบ้านแล้ว ดังนั้น บ้านที่กำลังผ่อนชำระอยู่ก็สามารถนำมายื่นค้ำประกันประเมินวงเงินกู้ได้

การเตรียมความพร้อมก่อนการเข้าไปขอสินเชื่อ เพื่อการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย

การเตรียมตัวเพื่อเข้าไปยื่นขอกู้สินเชื่อซ่อมแซมบ้านไม่ได้มีขั้นตอนที่ซับซ้อน เพียงแค่สำรวจว่าบ้านมีจุดที่ต้องซ่อมแซมบ้าน ปรับปรุงบ้านกี่จุด ลองประเมินค่าใช้จ่ายคร่าวๆ และทำเรื่องขอกู้สินเชื่อได้เลย ซึ่งรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ที่ควรรู้ก่อน มีดังนี้

กรณีต้องมีการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย เล็กน้อย

  • ต้องมีการสำรวจสิ่งที่ต้องซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคาร ทั้งหมดเสียก่อน

หากบ้านของคุณไม่ได้ทรุดโทรมมากนัก เพียงแค่ผนังร้าว เพดานซึม ต้องการลงยาแนว เปลี่ยนกระเบื้อง หรือปรับปรุงพื้นดาดฟ้า และซ่อมแซมบ้านส่วนต่างๆ ของบ้านเพียงเล็กน้อย คุณก็เพียงแค่สำรวจรายการซ่อมบ้านให้ครบเพื่อสรุปว่ามีอะไรที่ต้องซ่อมบ้านบ้างและประเมินค่าใช้จ่ายออกมาเพื่อจะได้ยื่นขอสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมบ้าน เพียงครั้งเดียวให้เรียบร้อย ครอบคลุม

  • เลือกธนาคารกู้สินเชื่อ

ในการเลือกธนาคารกู้จะมีอยู่ 2 กรณีสำหรับการกู้ซ่อมแซมบ้าน คือ กรณีที่บ้านยังผ่อนชำระไม่หมด  และกรณีที่บ้านปลอดภาระหนี้แล้ว

สำหรับกรณีแรกแนะนำให้ขอสินเชื่อกับธนาคารแหล่งเดิมที่ผ่อนชำระอยู่ เพราะการทำเรื่องจะสะดวกและรวดเร็วมากขึ้นเนื่องจากธนาคารมีประวัติและข้อมูลการผ่อนชำระของเราอยู่แล้ว บ้านที่ผ่อนก็เป็นหลักประกันอยู่แล้ว คุณจึงสามารถขอกู้เพิ่มได้โดยไม่เกินวงเงินประเมินจากราคาบ้าน

ส่วนกรณีบ้านที่ไม่มีภาระหนี้สินแล้ว คุณสามารถขอสินเชื่อซ่อมแซมบ้านได้จากทุกธนาคารตามที่ต้องการโดยเลือกดูจากอัตราดอกเบี้ยว่าที่ใดประหยัดที่สุดได้ ซึ่งมีโอกาสได้สินเชื่อซ่อมแซมบ้านง่ายกว่าบ้านที่ยังมีภาระหนี้ ทั้งนี้ ถ้าเป็นการซ่อมแซมบ้านเพียงเล็กน้อย แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายคงไม่สูงเท่าการต่อเติมบ้าน สร้างหรือซื้อบ้าน บางธนาคารอาจจะระบุจำนวนเงินกู้ขั้นต่ำ เช่น 100,000 บาท เป็นต้น จึงอาจต้องขอสินเชื่อประเภทอื่น เช่น สินเชื่อชำระหนี้ หรือสินเชื่ออเนกประสงค์

กรณีซ่อมแซมบ้านหรือปรับปรุงบ้าน โครงสร้างอาคาร

  • สำรวจสิ่งที่ต้องซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารทั้งหมด

นอกจากการสำรวจและทำรายการสิ่งที่ต้องซ่อมแซมบ้าน ตึกทั้งหมด จะช่วยให้ทราบงบประมาณหรือจำนวนเงินที่ควรขอสินเชื่อแล้ว สำหรับการทรุดโทรมในระดับโครงสร้างหรือฐานราก เช่น เสาร้าว รั้วบ้านพัง บ้านทรุด ฯลฯ  การสำรวจจุดที่ต้องซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย ทั้งหมดจะช่วยให้คุณสามารถนำไปปรึกษากับผู้รับเหมาต่อไปได้

  • เริ่มสำรวจและค้นหาผู้รับเหมาและเขียนแปลนก่อสร้าง

เมื่อคุณทราบว่ามีส่วนใดของบ้านที่ต้องซ่อมแซมแล้ว คุณก็นำรายการที่ทำไว้ไปคุยกับผู้รับเหมาและขอให้เขาประเมินค่าใช้จ่าย รวมถึงทำใบเสนอราคาเพื่อซ่อมแซมบ้านบ้าน ปรับปรุงบ้าน ที่คุณจะได้ตัดสินใจเลือกผู้รับเหมาที่ให้ราคาดี เหมาะสมกับฝีมือ จากนั้นจึงให้ผู้รับเหมาเขียนแปลนก่อสร้างและทำสัญญาว่าจ้างก่อสร้าง เพื่อที่คุณจะได้นำไปยื่นขอสินเชื่อซ่อมแซมบ้านกับธนาคาร หรืออาจใช้สำหรับการขออนุญาตก่อสร้างอีกด้วย

  • เริ่มทำการยื่นกู้สินเชื่อซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคารที่พักอาศัย

สินเชื่อซ่อมแซมบ้าน ก็คือสินเชื่อบ้านประเภทหนึ่ง ดังนั้น วิธีการยื่นขอสินเชื่อและเกณฑ์การประเมินของธนาคารจึงไม่ได้แตกต่างจากการยื่นกู้ซื้อ/สร้างบ้านทั่วไป โดยคุณต้องเตรียมเอกสารส่วนตัว และเอกสารทางการเงินต่างๆ ให้ครบถ้วน ทั้งตัวผู้กู้หลักและผู้กู้ร่วม นอกจากนี้ สิ่งที่อาจต้องยื่นเพิ่มเติม คือ

เอกสารหลักประกัน ได้แก่
  • สำเนาสัญญากู้เงินและสำเนาสัญญาจำนองกับสถาบันการเงิน
  • หลักฐานการเป็นเจ้าของอาคารนั้นๆ
  • สำเนาโฉนดที่ดิน/นส. 3ก ทุกหน้า อย่างครบถ้วน ไม่ขาด
  • ใบอนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร (ถ้ามี)
  • แบบแปลน (ยิ่งมีครบและมากเท่าไร จะยิ่งดีต่อการพิจารณาอนุมัติ ปล่อยสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซมบ้าน ตึก อาคาร)
  • ใบประมาณการดัดแปลงบ้าน ตึก อาคาร / สัญญาว่าจ้างงานก่อสร้างที่มีแล้ว

นอกเหนือจากเอกสารดังกล่าวข้างต้น ธนาคารอาจขอเอกสารต่างๆ ของผู้กู้เพิ่มเติม แล้วแต่กรณีด้วยเช่นกันนะครับ