ความรู้งานก่อสร้าง “ประเภทของหลอดไฟ”

สาระน่ารู้ :

แสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนั้นบ้านที่มีแสงสว่างจึงต้องมีประเภทของหลอดไฟชนิดต่างๆที่เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน วันนี้สาระน่ารู้จึงมีประเภทของหลอดไฟชนิดต่างๆมาเป็นความรู้ให้กับผู้บริโภคได้ศึกษากันครับ

 

  • หลอดไส้ หลอดไฟในยุคแรก ๆ หลอดไส้ทำมาจากทังสเตน ปล่อยพลังงานความร้อนสูง แต่ให้การส่องสว่างต่ำ จึงไม่ค่อยประหยัดไฟ อายุการใช้งานสั้น

 

  • หลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือที่เรามักเรียกกันว่าหลอดนีออน ถูกนำมาใช้แทนหลอดไส้ ให้แสงสว่างมากกว่าหลอดไส้ และอายุการใช้งานมากกว่า 7-8 เท่า แต่ต้องใช้คู่กับบัลลัสต์และสตาร์ทเตอร์

 

  • หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ หรือหลอดตะเกียบ การใช้งานคล้ายกับหลอดฟลูออเรสเซนต์ มีแบบที่มีบัลลัสต์ในตัว ขนาดเล็ก กะทัดรัด ประสิทธิภาพในการส่องสว่างมากกว่า อายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น

 

 

  • หลอดฮาโลเจน พัฒนามาจากหลอดไส้ให้ดีขึ้น ใช้ก๊าซฮาโลเจนบรรจุภายใน ทำให้ทนทานมากขึ้น สว่างมากขึ้น และค่าการให้แสงถูกต้อง ไม่เพี้ยน จึงนิยมนำมาใช้กับสตูดิโอถ่ายภาพ หรือการแสดงสินค้า แต่ก็นิยมนำมาใช้ในบ้านบริเวณที่เป็นมุมอับ หรือห้องทำงาน

  • หลอด LED ปัจจุบันเป็นที่นิยม ให้พลังงานต่ำ ประสิทธิภาพการส่องสว่างสูงมาก ไม่มีแสง UV ไม่กระพริบขณะเปล่งแสง สามารถเปิด-ปิดได้อย่างรวดเร็ว เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆ

โทนสีของแสงหลอดไฟ

  1. สีวอร์มไวท์ (Warm white) ให้แสงสีแดงออกโทนส้ม เป็นโทนสีร้อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับห้องนอน ห้องรับแขก แต่แสง Warm White อาจทำให้สีที่สะท้อนกลับมาผิดเพี้ยนไม่ตรงกับความเป็นจริงได้
  2. สีคูลไวท์ (Cool white) ให้แสงสีในทางสีขาว โทนสีเย็นสบายตา ค่อนข้างสว่างกว่าเมื่อเทียบกับสีวอร์มไวท์
  3. สีเดย์ไลท์ (Day light) ให้แสงสีโทนขาวอมฟ้า คล้ายแสงธรรมชาติตอนกลางวัน ให้ค่าสีที่สมจริง จึงไม่ทำให้สีของวัตถุที่สะท้อนกลับมาผิดเพี้ยน หรือหลอกตา แสง Daylight สามารถใช้ได้กับทุกที่ที่ต้องการความสว่างสดใส

Read More

ความรู้งานก่อสร้าง “ประเภทของกระเบื้อง”

สาระน่ารู้ : ประเภทของกระเบื้อง

6 ประเภทกระเบื้องที่คุณต้องรู้ก่อน “สร้างบ้าน”

กระเบื้องที่คนนิยมใช้ปูพื้นหรือผนังจะมีอยู่ 6 ประเภท ได้แก่ กระเบื้องดินเผา กระเบื้องเซรามิค กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องโมเสค กระเบื้องแก้ว และกระเบื้องหินอ่อน  ในบ้านหนึ่งหลังคุณอาจเห็นได้ว่ามีการใช้กระเบื้องหลายๆ ชนิดปนอยู่ด้วยกัน ชนิดของกระเบื้องปูพื้นแต่ละแบบก็จะมีจุดเด่นและมีความเหมาะสมในการนำไปใช้งานที่แตกต่าง เราจะอธิบายเพิ่มเติมไว้ด้านล่าง

กระเบื้องดินเผา

นับว่าเป็นกระเบื้องที่มีการนำมาใช้งานยาวนานที่สุด ใช้กันมาตั้งแต่ยุคโบราณจนถึงปัจจุบัน กระเบื้องทำมาจากดินเหนียวที่นำไปผ่านการเผา เนื้อกระเบื้องมีความด้าน ไม่ค่อยลื่น เก็บความชื้นได้ดี ไม่อมความร้อน พื้นที่ที่ปูด้วยกระเบื้องดินเผาจะมีความเย็นสบาย เป็นกระเบื้องที่มีความคลาสสิค สวยงาม มองแล้วสื่อถึงความเป็นธรรมชาติได้ดี และมีราคาถูก แต่ไม่ค่อยทนทาน ผุกร่อนง่าย ทำความสะอาดยาก มักเจอปัญหาตะไคร่มาเกาะ ควรนำไปปูผนังหรือบริเวณที่ไม่โดนน้ำจะช่วยยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้น

 

 

กระเบื้องเซรามิค

เป็นกระเบื้องที่คนส่วนมากนิยมนำไปปูพื้น เนื่องจากมีสีและลวดลายให้เลือกเยอะ นำไปตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ มีราคาถูกและหาซื้อได้ง่าย เนื้อกระเบื้องแน่นและมีความแข็งแกร่งค่อนข้างสูง ค่อนข้างทนทานในระดับหนึ่ง สามารถนำไปปูพื้นหรือผนังได้ ระวังเรื่องถ้านำไปใช้งานผิดประเภท ไม่แนะนำให้เอากระเบื้องปูผนังไปปูพื้น เพราะจะมีปัญหาเรื่องการรับน้ำหนัก กระเบื้องอาจพังเสียหายเร็ว นอกจากนี้กระเบื้องเซรามิคยังดูดซึมน้ำได้ดี เวลาเปียกน้ำ เนื้อกระเบื้องจะมีความลื่น ไม่ควรเอาไปปูพื้นห้องน้ำหรือบริเวณที่โดนน้ำ

 

 

กระเบื้องพอร์ซเลน

เป็นกระเบื้องที่มีส่วนผสมของดินขาวและแร่อื่นๆ ผ่านกระบวนการเผาที่อุณหภูมิสูงจนกระเบื้องเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น มีความแข็งแรง ไม่แตกง่าย ทนต่อการขูดขีด และมีรูพรุนน้อย กระเบื้องพอร์ซเลนมีค่าอัตราการดูดซึมน้ำต่ำแค่เพียง 0.05% จึงง่ายต่อการทำความสะอาด ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค สามารถนำไปติดตั้งในพื้นที่เปียกหรือภายนอกตัวอาคารได้ และนิยมนำไปปูพื้นในบริเวณที่มีการใช้งานบ่อย เช่น ทางเดิน ครอบคลุมการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร มีหลากหลายขนาดและลวดลายให้เลือ

 

 

กระเบื้องโมเสค

เป็นกระเบื้องที่มีขนาดเล็กที่สุด มีลักษณะเป็นกระเบื้องชิ้นเล็กๆ ที่นำมาเรียงต่อกันบนตาข่าย เนื้อกระเบื้องอาจเป็นแก้ว หินหรือเซรามิค มีสีสันสดใส มันวาว สีไม่ตกหรือซีดง่าย สามารถนำไปตกแต่งตามผนังหรือพื้นที่ต้องการ ดึงดูดสายตา สร้างไอเดียที่แปลกใหม่ด้วย  แบบต่างๆ และเหมาะนำไปติดบนพื้นที่ขนาดเล็กและโค้งมน เช่น ซุ้มประตูทางเข้า

กระเบื้องโมเสคมีคุณสมบัติระบายน้ำได้ดีจึงนิยมนำไปปูพื้นสระว่ายน้ำ ไม่เหมาะนำไปปูพื้นในบริเวณที่กว้างๆ เพราะมีขนาดเล็กอาจต้องใช้กระเบื้องจำนวนมาก แถมมีราคาสูง ค่าใช้จ่ายจะสูงเกินไป และเป็นกระเบื้องที่ทำความสะอาดยากที่สุด เพราะมีร่องระหว่างรอยต่อกระเบื้องเยอะ

 

 

กระเบื้องแก้ว

กระเบื้องแก้วเกิดจากการนำชิ้นแก้วมาขึ้นรูปเป็นแผ่นกระเบื้อง มีลักษณะมันวาว โปร่งแสง สีสันและลวดลายมีความทนทานกว่ากระเบื้องชนิดอื่น ลักษณะอาจคล้ายกระเบื้องโมเสคแต่จะมีความมันวาวมากกว่า รับน้ำหนักได้ไม่เยอะ ไม่ควรนำไปปูพื้น เหมาะกับการนำไปใช้ตกแต่งหรือใช้ปูในพื้นที่แคบๆ ไม่นิยมปูในพื้นที่กว้างๆ เพราะกระเบื้องชิ้นเล็กปูยาก และราคาค่อนข้างสูง

 

 

แผ่นหินอ่อน

หินอ่อนเป็นหินที่มีเนื้อแข็ง เกิดจากธรรมชาติ ไม่กักเก็บความร้อน จุดเด่นคือมีความเย็นอยู่ในตัว เมื่อนำมาตกแต่งจะให้ความรู้สึกหรูหรา ด้วยลักษณะที่มีความมันวาว ลวดลายเป็นลายเส้นดูพริ้วไหว หลายคนนิยมนำไปปูพื้นในโรงแรมหรืออาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่เน้นความโอ่อ่า สง่างาม มีระดับ สร้างความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ แต่ราคาจะสูงกว่ากระเบื้องประเภทอื่นๆ มีน้ำหนักเยอะ การดูรักษาค่อนข้างยุ่งยาก ต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วน แถมเกิดรอยด่างได้ง่าย ไม่ทนต่อกรด ไม่ทนต่อด่าง

 

Read More

ความรู้งานก่อสร้าง “การซ่อมแซมสีผนังที่ชำรุด”

สาระน่ารู้ : วิธีการซ่อมแซมสีผนังที่ชำรุด

การซ่อมแซมสีที่ชำรุดตามผนังหรือตัวบ้านนั้นผู้รับเหมาทาสีหรือซ่อมแซมสีนั้น จะมีขั้นตอนและวิธีกการซ่อมแซมที่ถูกขั้นตอนและได้ผลงานออกมาที่ดี โดยมีข้อแนะนำดังนี้

สาเหตุปัญหาที่ทำให้เกิดสีผนังลอก

สาเหตุปัญหาที่ทำให้สีผนังลอกนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น ช่างทาสีมีฝีมือไม่ดีพอ การเลือกสีที่มีคุณภาพไม่เหมาะกับการใช้งาน การเตรียมหน้างานก่อนทาสีไม่ดี รวมถึงการทาสีที่ผิดวิธี นอกจากนั้นยังมีเรื่องของปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น สภาพอากาศ ความร้อน และความชื้นทั้งในและนอกผนังนั่นเอง

วิธีซ่อมสีผนังลอกให้กลับมาเหมือนใหม่

ในการซ่อมแซมผนังที่มีปัญหาเรื่องสีลอกให้กลับมาสวยเหมือนทาใหม่นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่รู้วิธีซ่อมสีผนังลอกที่ถูกต้อง พร้อมเลือกใช้วัสดุสีทาบ้านที่มีคุณสมบัติในการช่วยเรื่องนี้โดยตรง ก็จะสามารถขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มซ่อมสีผนังลอก

  • เกรียงปากแบน ไขควงปากแบน  ค้อน  กระดาษทรายเนื้อละเอียด  ผ้าปูพื้น  เทปสำหรับงานทาสี
  • ผ้าหรือฟองน้ำ  แว่น หน้ากาก N95 และถุงมือ

ขั้นตอนซ่อมสีผนังลอกที่ถูกต้อง

1. เตรียมตัวและเตรียมพื้นที่บริเวณรอบ ๆ

เริ่มจากการสวมใส่อุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ได้แก่ แว่น หน้ากาก N95 และถุงมือ เพื่อป้องกันเศษผงต่าง ๆ เข้าตาและจมูก รวมถึงป้องกันการโดนบาด การเตรียมพื้นที่มีจุดประสงค์หลักคือเพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่อื่นเปรอะเปื้อนไปด้วย จึงต้องทำอย่างพิถีพิถันมากถ้าเป็นในบ้าน ย้ายเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ และพรมออกจากพื้นที่ ปูพื้นด้วยผ้าผืนใหญ่และหนา ปิดขอบประตูและหน้าต่างด้วยเทปสำหรับงานทาสี

2. เตรียมพื้นผิวที่ต้องการซ่อมแซม

ตรวจสอบผนังให้ทั่วว่ามีรอยรั่วหรือไม่ เพื่อกำจัดความชื้นจากพื้นที่ ลอกคราบสีเก่า โดยเริ่มจากใช้เกรียงขูดสีเก่าออกให้ได้มากที่สุด หรือใช้ค้อนกับไขควงปากแบน ในการกะเทาะสีเก่าออกให้หมดก็ได้เช่นกัน จากนั้นให้ทำการเจียด้วยเครื่องขัดหน้าผิวคอนกรีต เพื่อเป็นการเปิดหน้าผิว

 

3. ซ่อมแซมผนัง

หากผนังมีรอยแตก รอยร้าว ผิวผนังขรุขระ หรือมีรู ใช้ค้อนหรือไขควงแซะเศษผนังและสีที่ลอกออก ปิดรูและรอยแตกร้าวด้วยสีโป๊วผนัง เป็นอะคริลิกอุดโป๊วแบบยืดหยุ่นสีขาวใช้สำหรับอุดโป๊วรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ 2-10 มม. สามารถใช้อุดโป๊วร่องที่มีการขยับตัวได้ เช่น วงกบประตู หน้าต่าง ซ่อมแซมรอยแตกร้าวของผนังปูน ฉาบ พื้นคอนกรีต กระเบื้อง และไม้ ได้ดี หลังจากนั้นอุดโป๊วเก็บตามบริเวณรอยแตกลายงา ใช้กระดาษทรายขัดผิวให้เรียบเสมอกัน แล้วทิ้งให้ผนังแห้งสนิท

 

4. ทำความสะอาดให้เรียบร้อย

วิธีทำความสะอาดผนังบ้าน หากเป็นผนังภายในบ้านให้นำผ้าหรือฟองน้ำชุบน้ำเช็ดเศษผงออก หากเป็นผนังภายนอกที่มีพื้นที่กว้างให้ใช้สายยางล้างบนผนังได้เลย แต่ต้องทิ้งไว้ 2-3 วันเพื่อให้ผนังแห้งสนิทก่อนทาสี

 

5. ทารองพื้น

เมื่อผนังเรียบ แห้งสนิท และไร้สิ่งสกปรกแล้ว ให้ใช้แปรงหรือถ้าพื้นที่กว้างก็ใช้ลูกกลิ้งทาสีในการทาสีรองพื้น โดยให้เลือกชนิดที่เหมาะกับพื้นผิว

 

  • สีรองพื้นปูนอเนกประสงค์ Perfex Primer  ด้วยโมเลกุลที่มีความละเอียดสูง สามารถแทรกซึมเข้าพื้นผิวได้ง่าย ช่วยให้การยึดเกาะดีขึ้น และยังช่วยปรับสภาะด่างบนผิวปูนให้เป็นกลาง ป้องกันไม่ให้คราบเกลือซึมออกมาทำลายผิวสีทับหน้า ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำได้ดี เหมาะสำหรับใช้ทาเป็นรองพื้นบนพื้นผิวปูนทุกชนิด รวมถึงกระเบื้องแผ่นเรียบต่าง ๆโดยเฉพาะปูนที่เพิ่งฉาบเสร็จใหม่ ๆ

 

คำแนะนำก่อนจะเริ่มทารองพื้น เราขอแนะนำว่าให้แปะเทปสำหรับงานทาสีเพื่อกันพื้นที่ที่ไม่อยากให้เลอะ ทั้งเพดานและขอบประตูหน้าต่าง การทาสีสำหรับผนังที่มีพื้นที่กว้าง ควรทาสีจากด้านบนลงด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้สีเลอะบริเวณที่ทาไปแล้วนั่นเอง หลังจากนั้นรอให้แห้ง

 

6. เริ่มทาสีผนัง

เมื่อสีรองพื้นแห้งแล้ว ให้นำสีน้ำอะคริลิกที่ต้องทาทับหน้า มาผสมน้ำ 10% ของปริมาณสี แล้วทาลงบนผนังจำนวน 2 เที่ยว ห่างกันเที่ยวละ 2 ชั่วโมง โดยการเลือกสีต้องเหมาะกับพื้นที่การใช้งาน รวมถึงวัสดุของพื้นผิวที่จะทา โดยทั่วไปสีทาผนังประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ สี สารยึดเกาะ ตัวทำละลายเพื่อกันไม่ให้สีจับตัวเป็นก้อน และสารเติมแต่งเพื่อคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ

ประเภทของสีและการเลือกใช้แบ่งหลัก ๆ ได้ดังนี้

  • สีน้ำอะครีลิคหรือสีน้ำพลาสติก  –  ใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย เหมาะกับพื้นผิวปูน ซีเมนต์ และคอนกรีต
  • สีน้ำมัน  –  ใช้น้ำมันหรือทินเนอร์เป็นตัวทำละลายเหมาะกับพื้นผิวโลหะและไม้ สีทาผนังภายนอกต้องทนต่อสภาพอากาศ ทั้งแดด ฝน ลม ความชื้น และความร้อน ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ กันน้ำซึมได้ดี และสามารถยืดหดตามโครงสร้างได้

  • สีทาผนังภายใน  –  ควรเน้นคุณสมบัติที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัย เช่น ป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย ฝุ่นไม่เกาะ ทำความสะอาดง่าย ไม่มีกลิ่นฉุน รวมถึงสวยงามด้วย

ก่อนทาสีเราขอแนะนำให้อ่านวิธีใช้งาน คำแนะนำ และคำเตือนข้างกระป๋องสีให้เข้าใจก่อนเริ่มลงมือเพื่อให้มั่นใจว่าคุณทาสีถูกวิธีจะได้ไม่เกิดปัญหาภายหลัง เมื่อทาสีเสร็จทิ้งไว้จนแห้งสนิทก่อนจะใช้งานในพื้นที่

 

ซ่อมสีผนังช่วยดูแลบ้านและดีต่อผู้อยู่อาศัย

วิธีกันผนังชื้นและวิธีซ่อมสีผนังลอกไม่เพียงช่วยทำให้บ้านดูดีและช่วยแก้ปัญหาบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพคนในบ้านด้วย บ้านไร้รา ไม่มีฝุ่น ดีต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อาศัยเช่นกัน

 

นอกจากซ่อมสีผนังให้ถูกต้องตามหลักแล้ว การเลือกสีก็เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกปิดรอยแตกลายงาได้เป็นอย่างดี เริ่มตั้งแต่การเลือกสีรองพื้น ไปจนถึงสีทับหน้า ควรจะเลือกสีที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับตัวบ้าน  สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดง่าย และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสีกำแพงบ้านได้เป็นอย่างดี เพื่อให้บ้านของเราน่าอยู่ และสวยเหมือนใหม่อยู่เสมอ

 

Read More