ซ่อมบ้านเองหรือหาช่างซ่อมบ้านมาช่วยดี? ไกด์นี้มีคำตอบ

ท่อน้ำรั่วกลางดึก ฝ้าหลุดเป็นแผ่น หรือสวิตช์ไฟช็อตแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย บ้านที่ดูเหมือนอยู่ในสภาพดีบางครั้งก็พร้อมมีเรื่องให้ปวดหัวได้ทุกเมื่อ และคำถามก็จะตามมาทันทีว่า “จะลงมือซ่อมเองดีไหม หรือควรหาช่างซ่อมบ้านมาช่วยดีกว่า?” เพราะหลายคนอาจเคยมีโมเมนต์อยากลองเป็นช่างเอง แต่บางคนก็กลัวว่ายิ่งทำจะยิ่งเป็นปัญหา การจ้างช่างซ่อมบ้านก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้เราไม่ต้องเสี่ยง

บทความนี้เราจะพาคุณมาเจาะลึกกันว่าระหว่าง DIY กับการจ้างช่างรับซ่อมแซมบ้าน งานซ่อมแบบไหนที่เราทำเองได้จริงโดยไม่เสี่ยง และงานแบบไหนที่ควรยกให้มืออาชีพดูแล เพื่อความปลอดภัย ความสบายใจ และความคุ้มค่าในระยะยาว

งานซ่อมบ้านมีหลายระดับ ไม่ใช่แค่เรื่องเล็กๆ

งานซ่อมบ้านมีอยู่ด้วยกันหลายระดับ ซึ่งบางอย่างเราทำเองได้ แต่บางอย่างก็ควรหาช่างซ่อมบ้านที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางจะดีกว่า เพราะถ้าทำพลาดอาจกลายเป็นปัญหาบานปลายที่เสียทั้งเงินและเวลาแบบไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นเราลองมาดูกันว่าประเภทของงานซ่อมมีอะไรบ้าง

1. งานโครงสร้าง (Structural Work)
   งานโครงสร้าง เช่น ซ่อมรอยร้าวในผนัง เสริมคาน เปลี่ยนพื้น บันได หรือผนังที่ทรุดตัว งานพวกนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรง ถ้าไม่ใช่ช่างมืออาชีพอย่าเสี่ยงเด็ดขาด เพราะมีผลกับตัวบ้านในระยะยาวแน่นอน
2. งานระบบไฟฟ้า
   พวกเปลี่ยนปลั๊ก เดินสายไฟใหม่ ติดตั้งเบรกเกอร์ หรือแก้ปัญหาไฟกระตุก ไฟดูด เรื่องระบบไฟถ้าไม่ชำนาญจริงๆ ไม่ควร DIY เพราะมีความเสี่ยงถึงขั้นไฟไหม้หรืออันตรายต่อชีวิต แนะนำให้หาช่างซ่อมบ้านที่ชำนาญงานไฟโดยเฉพาะจะปลอดภัยกว่า
3. งานระบบประปา
   ไม่ว่าจะเป็นซ่อมท่อน้ำรั่ว เปลี่ยนก๊อกน้ำ เดินท่อใหม่ หรือแก้ปัญหาท่อน้ำตัน งานพวกนี้ถ้าทำไม่ดีอาจทำให้บ้านชื้น เกิดเชื้อรา หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ถ้าเป็นปัญหาใหญ่ควรหาช่างที่รับซ่อมแซมบ้านแบบครบวงจรหรือช่างประปาเฉพาะทางได้เลย
4. งานตกแต่ง/งานภายใน
   งานตกแต่งหรืองานภายในอย่างการทาสีใหม่ ติดวอลเปเปอร์ เปลี่ยนมือจับบานประตู หรือ DIY เฟอร์นิเจอร์ งานกลุ่มนี้เป็นมิตรกับคนชอบทำเอง แต่ก็ต้องมีเครื่องมือและเวลามากพอสมควรหากอยากเน้นเรื่องความสวยงามและเรียบร้อย
5. งานซ่อมจุกจิกทั่วไป
   งานซ่อมจุกจิกทั่วไป อย่างเช่น ซ่อมบานพับหลวม ปิดรอยร้าวเล็กๆ อุดรูน้ำหยด งานเหล่านี้เหมาะกับมือใหม่หัด DIY หรือเจ้าของบ้านที่อยากลงมือเอง แต่อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และศึกษาวิธีซ่อมจากแหล่งที่เชื่อถือได้

เมื่อเจ้าของบ้านกลายเป็นช่างเองได้

ไม่ต้องเป็นช่างซ่อมบ้านมืออาชีพก็มีหลายอย่างที่เจ้าของบ้านสามารถซ่อมเองได้ เพราะงานซ่อมบางประเภทก็เหมาะจะเริ่มต้นด้วยตัวเอง โดยเฉพาะงานเล็กๆ ที่ไม่ต้องใช้เครื่องมือมากมายหรือไม่กระทบโครงสร้างภายในบ้าน เช่น

• เปลี่ยนหลอดไฟ สวิตช์ไฟ ปลั๊กพ่วง งานพื้นฐานที่หลายคนเริ่มต้นจากตรงนี้ แต่ควรปิดเบรกเกอร์ก่อนเสมอเพื่อความปลอดภัย
• ทาสีผนังหรือทาสีเฟอร์นิเจอร์ แค่มีสีทาบ้าน ลูกกลิ้งสี เทปกาว และ Reference ก็ลงมือได้เลย
• เปลี่ยนบานพับ ติดตั้งมือจับ หรืออุปกรณ์บานประตู ใช้แค่ไขควงกับสว่านก็เอาอยู่ แถมได้ฝึกความแม่นในการเล็งรูน็อตอีกด้วย
• ซ่อมก๊อกน้ำรั่ว เปลี่ยนหัวก๊อก ถ้าแค่ขันน็อตแน่นหรือเปลี่ยนปะเก็น ไม่ต้องหาช่างก็จัดการได้ง่ายๆ ภายใน 10 นาที
• อุดรูเจาะ ซ่อมผนังร้าวเล็กๆ ด้วยโป๊วสำเร็จรูป
• ติดตั้งของตกแต่ง ตะขอแขวน รางม่าน แค่มีสว่านและพุกก็เปลี่ยนผนังโล่งๆ ให้กลายเป็นมุมเก๋ได้ไม่ยาก

ข้อดีของการ DIY

• ประหยัดเงินจ้างช่าง ไม่ต้องเสียค่าจ้างช่างซ่อมบ้านทุกครั้งที่มีเรื่องจุกจิกให้ซ่อม
• ควบคุมงบได้เอง อยากใช้วัสดุแบบไหนหรืออยากจ่ายเท่าไหร่ก็เลือกเองได้หมด
• ได้ฝึกฝีมือและความรู้ช่างเบื้องต้น เข้าใจระบบต่างๆ ในบ้านมากขึ้น รู้ทันช่าง เวลาหาช่างซ่อมบ้าน หรือสั่งซื้ออุปกรณ์เองก็มั่นใจกว่าเดิม
• สนุก และได้ความภูมิใจ สำหรับบางคนการได้ซ่อมของในบ้านด้วยตัวเองคือความสุขเล็กๆ ที่จับต้องได้จริง

ข้อควรระวังในการ DIY

• เครื่องมือไม่พร้อมงานก็ไม่เดิน บางงานต้องใช้สว่าน บล็อกขันน็อต หรือหัวพ่นสี ถ้าไม่มีอุปกรณ์ก็อาจทำให้งานล่าช้าหรือออกมาไม่เนี้ยบได้
• ถ้าความรู้ด้านงานซ่อมไม่มากพออาจทำให้กลายเป็นปัญหาใหญ่กว่าเดิมได้
• เสี่ยงเรื่องความปลอดภัย โดยเฉพาะงานเกี่ยวกับไฟฟ้าหรือการขึ้นที่สูง เช่น เปลี่ยนโคมไฟเพดาน
• เสียเวลาแบบไม่จำเป็น อย่างงานที่คิดว่าใช้เวลา 30 นาที อาจกลายเป็นทั้งวันถ้าเจออุปสรรคที่ไม่รู้วิธีแก้

เมื่อถึงเวลาต้องหาช่างซ่อมบ้านมืออาชีพ

เวลาที่เราควรหาช่างซ่อมบ้านคือเวลาที่เรารู้ว่างานนั้นหนักเกินไป บางงานถ้าทำผิดพลาดอาจนำไปสู่ความเสียหายกับบ้านทั้งหลังได้ หรือที่แย่กว่านั้นอาจเป็นอันตรายกับตัวเราเองด้วยซ้ำ

งานซ่อมที่ไม่ควร DIY เพราะเสี่ยงเกินไป

• งานระบบไฟฟ้า : เช่น เดินสายไฟใหม่ แก้ปัญหาไฟกระชาก เปลี่ยนเบรกเกอร์ เพราะหากทำผิดพลาดอาจทำให้ไฟดูดหรือไฟไหม้บ้านได้เลย
• งานโครงสร้าง : เช่น ผนังร้าว เสริมคาน พื้นทรุด งานพวกนี้ต้องใช้ความเข้าใจเรื่องวิศวกรรมเบื้องต้น ถ้าซ่อมผิดจุดอาจกระทบกับโครงสร้างทั้งหลังได้
• ระบบประปาขนาดใหญ่ : เช่น เดินท่อใหม่ เปลี่ยนตำแหน่งสุขภัณฑ์ แค่คิดจะรื้อตั้งแต่จุดน้ำเข้า-ออกก็อาจต้องเจอทั้งรื้อพื้น แก้ฝ้า หรือเดินท่อใหม่ ถ้าไม่ใช่ช่างซ่อมบ้านที่ชำนาญ อาจเจอปัญหาน้ำรั่ว น้ำย้อน หรือความชื้นสะสมตามมา
• งานที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง : เช่น สกัดพื้น เชื่อมเหล็ก ยิง PU Foam เครื่องมือพวกนี้ไม่ใช่ว่าหยิบได้จากกล่องเครื่องมือทั่วไป และถ้าใช้ไม่เป็นก็เสี่ยงทำบ้านพังมากกว่าจะซ่อม

ข้อดีของการจ้างช่างรับซ่อมแซมบ้าน

• ประหยัดเวลา งานจบไว
  ไม่ต้องหยุดงานไปหาวิธีซ่อม ไม่ต้องลองผิดลองถูกหลายวัน ช่างซ่อมบ้านที่มีประสบการณ์จะมองออกทันทีว่างานแบบนี้ต้องจัดการยังไง แถมยังใช้เวลาซ่อมไม่นาน
• ความปลอดภัยและการรับประกันงาน
  ระบบไฟฟ้า งานโครงสร้าง หรือการปีนขึ้นที่สูง เป็นเรื่องที่ต้องมีความชำนาญและความปลอดภัยสูง ถ้าใช้ช่างรับซ่อมแซมบ้านที่น่าเชื่อถือก็จะมีการรับประกันงานซ่อมในระยะเวลาหนึ่ง ช่วยให้เราอุ่นใจได้มากขึ้น
• ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับมาตรฐานช่างมืออาชีพ
  ต่อให้เราเป็นคนละเอียดแค่ไหนก็ไม่เท่าคนที่ทำมาเป็นสิบปี การวัดระดับ ความตรง ความเรียบ หรือแม้แต่การเลือกใช้วัสดุให้เหมาะกับงาน ล้วนเป็นทักษะที่มาจากประสบการณ์จริง

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ชอบ DIY ซ่อมบ้านเอง หรือคนที่มองหาทางเลือกสบายๆ ด้วยการหาช่างซ่อมบ้านที่ไว้ใจได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรู้จักประเมินหน้างานว่าอะไรทำเองได้ และงานไหนควรเรียกมืออาชีพมาช่วย เพราะสุดท้ายบ้านคือที่ที่เราอยู่ทุกวัน ความเรียบร้อย ความปลอดภัย และความสบายใจ ไม่ควรต้องมาเสี่ยงกับการลองผิดลองถูก

ถ้าคุณกำลังมองหาช่างซ่อมบ้านที่ไว้ใจได้ หรืออยากได้ทีมงานมืออาชีพที่รับซ่อมแซมบ้านแบบครบจบในที่เดียว แนะนำที่ แพรวพรรณราย คอมเมอร์เชียล ผู้ให้บริการรับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และดูแลงานบ้านทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ประปา หรือแม้แต่งานซ่อมหลังคา ปูกระเบื้อง รีโนเวทบ้านใหม่ทั้งหลัง เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ ทั้งช่างปูน ช่างก่อสร้าง และช่างรับเหมาซ่อมบ้านแบบครบทีม