เลือกบริษัทก่อสร้างยังไงให้มั่นใจได้คุณภาพและมาตรฐาน ISO

ทุกวันนี้การจะเลือกบริษัทก่อสร้างต้องมีการคัดกรองให้ละเอียดมากพอสมควร เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น โดนเทงาน ช่างวางระบบพัง แถมงานล่าช้าเกินกำหนด ซึ่งทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าเราเลือกบริษัทที่มีมาตรฐาน ISO เป็นมาตรฐานที่ช่วยกรองมืออาชีพตัวจริง เพราะบริษัทที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO จะมีระบบการทำงานที่ชัดเจน ปลอดภัย และโปร่งใส

บทความนี้จะช่วยแนะนำแนวทางในการเลือกบริษัทก่อสร้างที่ได้รับมาตรฐาน ISO พร้อมชี้จุดสำคัญที่ควรตรวจสอบก่อนตัดสินใจเซ็นสัญญา เพื่อให้โครงการของคุณดำเนินไปอย่างมีระบบ และจบลงอย่างเรียบร้อยในมาตรฐานที่คุณวางใจได้

ทำไมต้องเลือกบริษัทก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน ISO

สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทก่อสร้างมารับหน้าที่ดูแลโปรเจกต์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ออฟฟิศ หรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ การมีมาตรฐาน ISO อาจเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น เพราะ ISO คือสัญญาณของความเป็นมืออาชีพที่วัดผลได้จริง ทั้งด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และระบบการทำงานในแต่ละขั้นตอน

ISO คืออะไร? เกี่ยวอะไรกับงานก่อสร้าง?

ISO (International Organization for Standardization) คือมาตรฐานระดับสากลที่ใช้วัดระบบการบริหารจัดการขององค์กรในหลายด้าน ตั้งแต่การวางแผน การควบคุมคุณภาพ ไปจนถึงการจัดการความเสี่ยง เป็นตัวช่วยกำหนดแนวทางและมาตรฐานในการทำงานที่ปลอดภัย โปร่งใส และเป็นระบบมากขึ้น บริษัทก่อสร้างที่มี ISO จึงมักมีการจัดการที่ดีกว่า ไม่ทำงานแบบตามใจหรือด้นสดหน้างาน

ISO ช่วยการันตีเรื่องอะไรบ้าง?

  • คุณภาพของงาน (Quality)
    บริษัทก่อสร้างที่ผ่าน ISO จะมีระบบควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่วัสดุที่ใช้ การคุมต้นทุน ไปจนถึงงานก่อสร้างที่ตรงตามสเปก
  • ความปลอดภัยในการทำงาน (Safety)
    งานก่อสร้างคือหนึ่งในสายงานที่มีความเสี่ยงสูง การมีระบบจัดการความปลอดภัยตามมาตรฐานสากลจึงช่วยลดอุบัติเหตุหน้างานและปกป้องทั้งทีมงานและเจ้าของโครงการได้
  • ความโปร่งใสและตรวจสอบได้ (Transparency)
    ISO บังคับให้บริษัทต้องมีระบบจัดเก็บเอกสาร รายงาน และการตรวจสอบภายในอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เจ้าของโครงการสามารถติดตามความคืบหน้าได้ชัดเจน

เช็กลิสต์เบื้องต้นก่อนตัดสินใจจ้างบริษัทก่อสร้าง

ถ้าเริ่มต้นไม่ดี ปัญหาจุกจิกก็จะตามมาเป็นพรวน การเช็กข้อมูลเบื้องต้นของบริษัทก่อสร้างจึงสำคัญมาก บางเรื่องดูเหมือนเล็กน้อยแต่จริงๆ แล้วบอกได้เยอะว่าบริษัทที่เราเลือกไว้ใจได้แค่ไหน ลองมาดู 4 ข้อที่ควรเช็กก่อนตัดสินใจจ้างกันก่อนเลย

1. มีใบรับรอง ISO จริงไหม? ดูยังไง?

ใบรับรอง ISO ที่น่าเชื่อถือจะต้องออกโดยหน่วยงานที่ได้รับการรับรอง เช่น สถาบันมาตรฐานสากลหรือหน่วยงานรับรองในไทยที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการรับรองระบบงาน (NAC)

ให้คุณขอดูเอกสารใบรับรอง ISO ที่เป็นปัจจุบัน ระบุเลขที่ใบรับรอง ชื่อบริษัท และช่วงเวลาที่รับรอง พร้อมสังเกตว่าใบรับรองนั้นครอบคลุมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างหรือไม่ เพราะบางใบอาจใช้กับงานแค่บางประเภทเท่านั้น

2. โปรไฟล์ทีมงานและประสบการณ์ที่ผ่านมา

ลองเช็กว่าโปรเจกต์ที่ผ่านมาทางบริษัทก่อสร้างทำร่วมกับใคร มีโครงสร้างทีมเป็นอย่างไร วิศวกรประจำไซต์มีใบ กว. หรือไม่ และใช้ที่ปรึกษาด้านโครงสร้างหรือสถาปนิกจากที่ไหน ซึ่งประสบการณ์ที่หลากหลายเหล่านี้จะช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยเฉพาะในโปรเจกต์ที่มีความซับซ้อนมากกว่าปกติ

3. ตัวอย่างผลงานหรือรีวิวจากลูกค้าเก่า

แนะนำว่าให้ลองขอดูผลงานก่อนตกลงจ้าง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายไซต์งาน คลิปวิดีโอ หรือลองขับรถไปดูสถานที่จริงก็ได้ (หากไม่ใช่งานส่วนตัวของลูกค้า) ยิ่งถ้ามีรีวิวจากลูกค้าเก่าที่พูดถึงเรื่องคุณภาพงาน การส่งมอบ หรือการแก้ปัญหา ก็จะช่วยให้เห็นภาพความมืออาชีพของบริษัทนั้นๆ ได้ชัดเจนขึ้น

4. ความน่าเชื่อถือด้านเอกสารและการจดทะเบียน

บริษัทก่อสร้างที่ดีควรมีสถานะการจดทะเบียนถูกต้อง เช่น จดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย มีเลขประจำตัวผู้เสียภาษี และสามารถออกใบเสนอราคา ใบกำกับภาษี รวมถึงสัญญาที่ชัดเจนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ยิ่งถ้ามีการขึ้นทะเบียนกับสมาคมวิชาชีพ เช่น สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยหรือสมาคมผู้รับเหมาก่อสร้าง ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้มากขึ้นไปอีกระดับ

มาตรฐาน ISO ที่เกี่ยวข้องกับงานก่อสร้างมีอะไรบ้าง?

ในวงการก่อสร้างมี ISO อยู่หลายตัว แต่ละตัวก็มีบทบาทชัดเจนในด้านที่แตกต่างกัน ถ้าคุณกำลังจะเลือกบริษัทก่อสร้างมารับงาน การรู้จัก ISO เบื้องต้นจะช่วยให้คุณอ่านใบรับรองเป็น และมองเห็นมาตรฐานการทำงานของบริษัทนั้นชัดขึ้น

  1. ISO 9001 – ระบบบริหารคุณภาพ
    ISO 9001 เป็นมาตรฐานที่เน้นเรื่องการบริหารคุณภาพขององค์กรทั้งหมด ตั้งแต่การวางแผน การควบคุมคุณภาพ ไปจนถึงการตรวจสอบผลลัพธ์ในแต่ละขั้นตอน จุดแข็งของบริษัทก่อสร้างที่ผ่าน ISO 9001 คือความเป็นระบบ ไม่ทำงานแบบด้นสดหน้างาน มีแผนงาน มีการควบคุม และมีการตรวจซ้ำอย่างต่อเนื่อง
  2. ISO 14001 – การจัดการสิ่งแวดล้อม
    ISO 14001 คือมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การจัดการฝุ่น เสียงรบกวน ของเสียจากหน้างาน หรือแม้แต่การใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งบริษัทก่อสร้างที่ได้ ISO 14001 มักจะมีแนวทางลดผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างได้ดี และทำงานแบบรับผิดชอบต่อโลกมากกว่าการมุ่งแค่ส่งงานให้ทันเวลา
  3. ISO 45001 – ความปลอดภัยในการทำงาน
    มาตรฐานนี้เน้นเรื่องความปลอดภัยของคนทำงานเป็นหลัก ซึ่งในงานก่อสร้างที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง ทั้งจากเครื่องจักร วัสดุ และงานบนที่สูง มาตรฐาน ISO 45001 จึงมีความสำคัญมาก สำหรับบริษัทก่อสร้างที่ผ่านมาตรฐานนี้จะมีระบบวางแผนและจัดการความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น การฝึกอบรมทีมงาน การตรวจเช็กอุปกรณ์ก่อนใช้ หรือการเตรียมแผนรองรับอุบัติเหตุไว้ล่วงหน้า ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับทั้งแรงงานและเจ้าของโครงการ

เพราะเบื้องหลังของงานก่อสร้างที่ดีคือระบบที่ได้มาตรฐาน ความปลอดภัยในทุกขั้นตอน และความโปร่งใสที่เช็กได้ทุกจุด มาตรฐาน ISO จึงเป็นเหมือนเข็มทิศที่ช่วยชี้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทก่อสร้างในสายตาคุณได้ชัดเจนขึ้น

หากคุณกำลังมองหาทีมงานที่เข้าใจทั้งมาตรฐานงานก่อสร้างและความต้องการของเจ้าของบ้าน แพรวพรรณราย คอมเมอร์เชียล คือบริษัทก่อสร้างที่ให้บริการครบวงจร ทั้งรับเหมาก่อสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม ปรับปรุงบ้าน อาคาร สำนักงาน พร้อมทีมช่างมืออาชีพตั้งแต่ช่างปูน ช่างหลังคา ช่างต่อเติม ไปจนถึงช่างรีโนเวทบ้าน เรารับประกันคุณภาพทุกงาน ให้คำปรึกษาและประเมินราคาเบื้องต้นฟรี พร้อมลุยทุกโปรเจกต์อย่างเป็นระบบ

 

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือนัดสำรวจหน้างานได้ที่ บริษัทก่อสร้าง
บริษัท แพรวพรรณราย คอมเมอร์เชียล จำกัด
โทรศัพท์ : 089-794-7252
โทรศัพท์ : 086-307-1065
โทรศัพท์ : 083-428-1117
Email: pprcon@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/profile.php?id=61557637620700
Line ID : 0834281117