5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเริ่มปรับปรุงต่อเติมบ้าน ถ้าไม่อยากเจองบบานปลาย

บ้านที่เราอยู่อาศัยและใช้ชีวิตทุกวัน วันหนึ่งเมื่อถึงเวลาก็ต้องปรับปรุงต่อเติมบ้านกันบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการขยายพื้นที่ ต้องรองรับสมาชิกใหม่ในครอบครัว หรือแค่รู้สึกว่าอยากรีโนเวท

เปลี่ยนบรรยากาศให้บ้านดูใหม่ขึ้น แต่เรื่องที่มาคู่กันเสมอกับการต่อเติมก็คือเรื่องงบประมาณซึ่งจะต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะหากวางแผนไม่ดีก็อาจทำให้งบบานปลายเกินความจำเป็นได้

บทความนี้เลยจะพาไปดูวิธีวางแผนงบประมาณต่อเติมบ้าน คำนวณต้นทุนให้ตรงกับความเป็นจริง ลดโอกาสงบบานปลาย ตั้งแต่การกำหนดขอบเขตงานไปจนถึงเทคนิคที่ช่วยให้คุมค่าใช้จ่ายได้อยู่หมัด ใครกำลังคิดจะขยับขยายพื้นที่บ้าน อย่าเพิ่งเริ่มถ้ายังไม่ได้อ่านบทความ

ก่อนลงมือปรับปรุงต่อเติมบ้านต้องทำอะไรบ้าง

ถ้าอยากให้การปรับปรุงต่อเติมบ้านออกมาราบรื่นทั้งเรื่องงบประมาณและคุณภาพงาน มีหลายเรื่องที่ควรเช็กให้ละเอียดก่อนเริ่มลงมือ มาดูกันว่าแต่ละขั้นตอนต้องเตรียมอะไรบ้าง

  1. เช็กสภาพบ้านปัจจุบัน
    ก่อนจะเริ่มขยับขยายต้องดูก่อนว่าบ้านของเราพร้อมแค่ไหน บางคนอยากต่อเติมครัวหลังบ้าน แต่ลืมเช็กว่าส่วนฐานรากพอรับน้ำหนักเพิ่มหรือไม่ ผนังเดิมมีรอยร้าวหรือเปล่า หรือระบบไฟฟ้า ระบบน้ำตรงจุดนั้นรองรับงานใหม่ได้ไหม การเช็กโครงสร้างเดิมจึงเป็นเหมือนการตรวจสุขภาพบ้าน ถ้ามีปัญหาแฝงอยู่จะได้แก้ไขก่อน ไม่ต้องมาเสียเงินซ่อมซ้ำในภายหลัง
  2. กำหนดขอบเขตงานชัดเจน (Scope of Work)
    หลายโปรเจกต์งบบานปลายเพราะตอนเริ่มต้นไม่ได้ล็อกขอบเขตงานให้ชัด ว่าจะทำอะไรบ้าง ทำถึงตรงไหน ใช้วัสดุประมาณไหน เช่น ต่อเติมเฉพาะพื้นที่ซักล้าง หรือจะรวมงานเทพื้น ปูกระเบื้อง เปลี่ยนหลังคาด้วย กำหนด Scope of Work ให้ละเอียดตั้งแต่ต้น ช่วยให้คำนวณต้นทุนแม่นขึ้น และเป็นข้อมูลสำคัญเวลาขอใบเสนอราคาจากผู้รับเหมา
  3. ตั้งงบคร่าวๆ ตามประเภทงาน
    เมื่อรู้ขอบเขตงานแล้วก็ถึงเวลาประเมินงบประมาณเบื้องต้นว่าต้องเตรียมเงินไว้ประมาณเท่าไหร่ โดยอาจอ้างอิงจากราคากลางของตลาด เช่น งานปรับปรุงต่อเติมบ้านทั่วไปมักเริ่มต้นที่ 8,000-15,000 บาทต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับวัสดุและความซับซ้อน หากมีงบในใจจะช่วยให้วางแผนดีลกับช่างหรืออินทีเรียได้ง่ายขึ้น

ปัจจัยหลักที่กระทบกับงบประมาณต่อเติมบ้าน

จริงๆ แล้วงบประมาณในการปรับปรุงต่อเติมบ้านยังมีปัจจัยยิบย่อยอีกมากมายนอกเหนือจากค่าวัสดุกับค่าแรงที่พอรวมกันแล้วกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้งบบานปลายได้เลย การเข้าใจในแต่ละส่วนจะช่วยวางแผนตัวเลขได้แม่นขึ้น โดยปัจจัยหลักที่กระทบกับงบประมาณต่อเติมบ้านมีดังนี้

  1. ค่าช่างและค่าแรง
    ราคาค่าช่างและค่าแรงจะขึ้นอยู่กับประเภทของงาน ความซับซ้อน และฝีมือทีมช่าง ถ้าเป็นงานโครงสร้างใหญ่ๆ อย่างต่อเติมชั้นสอง หรือขยายพื้นที่ใช้สอย ค่าแรงมักจะสูงกว่างานตกแต่งเล็กๆ อย่างปูกระเบื้องหรือกั้นห้อง นอกจากนี้ช่วงเวลาที่ต่อเติมก็มีผล ถ้าเป็นช่วงที่ช่างมีงานเยอะ ค่าตัวช่างฝีมือดีก็อาจขยับสูงขึ้นตามดีมานด์
  2. วัสดุก่อสร้างและของตกแต่ง
    วัสดุคืออีกหนึ่งตัวแปรที่ทำให้งบแกว่งได้ง่ายมาก ทั้งงานปูน งานเหล็ก ไปจนถึงสุขภัณฑ์และเฟอร์นิเจอร์ เช่น เลือกปูกระเบื้องเกรดพรีเมียม ราคาก็ต่างจากกระเบื้องลายไม้ทั่วไปหลายเท่าตัว หรือเลือกใช้อะลูมิเนียมอบสีแทนเหล็กดัด ราคาก็จะขยับขึ้นอีกพอสมควร วัสดุหลายอย่างยังมีเรื่องสเปกแฝง เช่น ความหนา ความทนทาน หรือระบบกันความร้อนที่อาจต้องจ่ายเพิ่มเพื่อคุณภาพในระยะยาว
  3. ค่าขออนุญาตและเอกสารต่างๆ
    การปรับปรุงต่อเติมบ้านบางประเภทต้องมีการขออนุญาตก่อสร้างกับเขตหรือเทศบาล โดยเฉพาะถ้าเป็นงานโครงสร้าง ต่อเติมพื้นที่ใช้สอยเพิ่ม หรือต่อเติมบ้านในหมู่บ้านจัดสรรที่มีกฎระเบียบชัดเจน นอกจากค่าธรรมเนียมยังอาจมีค่าเขียนแบบและค่าวิศวกรเซ็นรับรองแบบที่ต้องเผื่อไว้ในงบด้วย
  4. ค่าออกแบบและควบคุมงาน
    ถ้าอยากให้งานออกมาดูดี มีดีไซน์ และวางแผนพื้นที่ใช้สอยได้ลงตัว การจ้างสถาปนิก อินทีเรียร์ หรือที่ปรึกษาโครงการ ถือเป็นการลงทุนที่ช่วยลดความวุ่นวายระหว่างงานได้เยอะ แต่แน่นอนว่าส่วนนี้ก็จะเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นมาอีกก้อนซึ่งมักคิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากงบประมาณทั้งโครงการ
  5. งบสำรองเผื่อฉุกเฉิน
    ไม่ว่าจะวางแผนมาดีแค่ไหน งานปรับปรุงต่อเติมบ้านก็มักจะมีเซอร์ไพรส์เสมอ เช่น เจอปัญหาโครงสร้างเก่าตอนรื้อ เจอปลวก หรือวัสดุบางตัวของหมดต้องเปลี่ยนรุ่นใหม่ การกันงบสำรองไว้ราว 10-15% ของงบทั้งโปรเจกต์จะช่วยให้เรารับมือกับเรื่องไม่คาดฝันได้สบายใจกว่า

เทคนิคคำนวณต้นทุนให้แม่น ลดโอกาสงบบานปลาย

หนึ่งในความเสี่ยงของการปรับปรุงต่อเติมบ้านที่หลายคนกังวลก็คือ “งบบานปลาย” เพราะงานก่อสร้างมักเต็มไปด้วยตัวแปรที่เปลี่ยนแปลงได้เสมอ ทั้งราคาวัสดุ ค่าช่าง รวมถึงปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นหน้างาน การวางแผนต้นทุนให้ละเอียดตั้งแต่แรกจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ภาพรวมทั้งโปรเจกต์อยู่ในกรอบงบประมาณที่ตั้งใจไว้

  • ทำ BOQ (Bill of Quantity) เบื้องต้น
    BOQ หรือรายการประมาณราคางานก่อสร้าง เป็นเหมือนเช็กลิสต์ว่าต้องใช้วัสดุอะไร ปริมาณเท่าไหร่ และราคาต่อหน่วยเป็นเท่าไหร่ เช่น ปูนกี่ถุง เหล็กเส้นกี่กิโล กระเบื้องกี่ตารางเมตร ฯลฯ แม้จะไม่ได้ทำแบบละเอียดระดับช่างมืออาชีพ แต่การทำ BOQ เบื้องต้นจะช่วยให้เรามองเห็นภาพรวมของต้นทุนวัสดุชัดเจนขึ้น และใช้เป็นฐานสำหรับไปคุยกับช่างหรือขอใบเสนอราคาได้
  • ขอใบเสนอราคาหลายเจ้ามาเปรียบเทียบ
    ราคางานปรับปรุงต่อเติมบ้านแต่ละเจ้าจะไม่เท่ากัน บางรายคิดค่าแรงถูกแต่วัสดุแพง บางรายเหมารวมทุกอย่างไว้ในราคาเดียวแล้ว การขอใบเสนอราคาจากหลายๆ เจ้าแล้วนำมาเปรียบเทียบรายละเอียดแต่ละส่วน จะช่วยให้เรามองเห็นความแตกต่างและเลือกดีลที่คุ้มค่า ควบคุมต้นทุนได้ตรงใจที่สุด
  • การเลือกผู้รับเหมา
    ผู้รับเหมาที่ดีต้องกล้าบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนชัดเจน ตั้งแต่ค่าวัสดุ ค่าแรง ระยะเวลาก่อสร้าง ไปจนถึงเงื่อนไขการชำระเงิน สัญญาที่โปร่งใสช่วยลดปัญหาเข้าใจไม่ตรงกันในภายหลัง และยังเป็นหลักประกันว่าทั้งสองฝ่ายเข้าใจตรงกันตั้งแต่เริ่มงาน ซึ่งสุดท้ายแล้วจะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องงบบานปลายได้มาก

การปรับปรุงต่อเติมบ้าน เป็นโปรเจกต์ที่ควรวางแผนอย่างละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเช็กสภาพบ้าน การวางขอบเขตงาน ไปจนถึงการคำนวณต้นทุนและเตรียมงบสำรองไว้ ยิ่งวางแผนรอบคอบเท่าไหร่ โอกาสที่งานจะออกมาดี ตรงงบ และจบแบบไม่ปวดหัวก็ยิ่งสูงขึ้น เท่านี้ก็ได้บ้านสวยในงบที่ควบคุมได้แล้ว

ถ้าใครกำลังมองหาทีมมืออาชีพสำหรับงานปรับปรุงต่อเติมบ้าน บริษัท แพรวพรรณรายคอมเมอร์เชียล พร้อมดูแลทุกขั้นตอนแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม หรือรีโนเวททั้งบ้าน อาคาร และสำนักงาน ทีมช่างของเรามีครบทั้งช่างก่อสร้าง ช่างงานปูน ช่างซ่อมบ้าน ช่างซ่อมหลังคา ช่างปูกระเบื้อง ให้บริการงานปรับปรุงต่อเติมบ้านทุกขนาด พร้อมรับประกันคุณภาพ และให้คำปรึกษา ประเมินราคางานก่อสร้างฟรี

วางแผน ปรับปรุงต่อเติมบ้าน แบบคนรุ่นใหม่ งบไม่บาน งานจบสวย
ติดต่อทีมบริษัท แพรวพรรณราย คอมเมอร์เชียล จำกัด
โทรศัพท์ : 089-794-7252
โทรศัพท์ : 086-307-1065
โทรศัพท์ : 083-428-1117
Email: pprcon@gmail.com
Facebook: https://www.facebook.com/profile.php?id=61557637620700
Line ID : 0834281117